FTI Economic Focus
รายงานเศรษฐกิจประจำเดือน กรกฎาคม
2553
เศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลัง 2553
ตัวเลขเศรษฐกิจเดือน พ.ค.ที่ปรับตัวลดลงจากปัญหาการจราจรบริเวณสี่แยกราชประสงค์
แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจโดยภาพรวม ไม่ได้รุนแรงตามที่คาดไว้
ยกเว้นภาคการท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวลดลง 815,000 คน หรือลดลงร้อยละ 19.2
ขณะที่ภาคส่งออกกลับขยายตัว โดยการส่งออกเดือน พ.ค. ขยายตัวสูงถึง 42.1% ซึ่งไม่ได้มาจากฐานที่ต่ำเพียงอย่างเดียว
แต่ยัง ขยายตัว 3.4% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งในไตรมาสแรกการส่งออกขยายตัวประมาณร้อยละ
43 นับเป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญ เพราะมีสัดส่วนสูงถึง 65% ขณะที่การนำเข้าขยายตัวสูงถึง 55.1% เพิ่มขึ้น 3.3%
จากเดือนก่อนหน้า โดยเฉพาะการนำเข้าวัตถุดิบที่คิดเป็นมูลค่าขยาย
ตัวถึง 57.7%
การบริโภคและการลงทุนก็ชะลอน้อยกว่าที่ประเมินไว้ ผลจากยืดอายุ 5 มาตรการฯ ลดภาระค่าครองชีพประชาชนที่ ครม. มีมติขยายออกถึงสิ้นปี
รวมถึงราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ลดเหลือ 72-73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากเดิมที่ 80
ดอลลาร์ฯ คาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปทั้งปีจะอยู่ที่ 3.5% จากเดิมคาดการณ์ 4% ส่วนเงินเฟ้อพื้นฐานที่ 1.3%
สอดคล้องกับกรอบเงินเฟ้อของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ 0.5-3%
ทั้งนี้
เงินเฟ้อพื้นฐานยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องใกล้เคียงดอกเบี้ยนโยบายที่คงไว้ 1.25%
จึงคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25%
ไตรมาส 4 หรือหากเศรษฐกิจครึ่งปีหลังฟื้นตัวขึ้นอาจขึ้น
0.5% ได้ หรือเฉลี่ยทั้งปีที่ 1.50% ขณะที่ค่าเงินบาทเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่
32.5 บาทต่อดอลลาร์ ทั้งนี้ การค้าปลีกที่ผ่านมาไม่ได้รับผลกระทบ
โดยในครึ่งปีหลังภาคการค้าปลีกทั้งระบบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ยกเว้น สินค้า Brand Name ต่างประเทศ
ที่อาจได้รับผลกระทบจากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง
โดยตลาดเงินและตลาดทุนจะเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสที่
สายงานเศรษฐกิจและโลจิสติกส์
สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
1 กรกฎาคม 2553