|
||||
|
||||
ส.อ.ท.เตรียมเสนอรัฐบาลจัดเก็บภาษีเงินทุน - ลดดอกเบี้ยแก้เงินบาทแข็งค่า Shareนายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการรักษาการประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่าว่า นับตั้งแต่ต้นปี เงินบาทแข็งค่าประมาณร้อยละ 7-8 ส่งผลกระทบผู้ประกอบการ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ใช้วัตถุดิบภายในประเทศสูง และอุตสาหกรรมการเกษตร นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากค่าแรงที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 300 บาททั่วประเทศ ซึ่งมาตรการช่วยเหลือที่มีอยู่แล้วของรัฐบาล ไม่สามารถช่วยบรรเทาผลกระทบให้ภาคเอกชนได้เพียงพอ ดังนั้น สภาอุตสาหกรรม จึงขอให้รัฐบาลช่วยดำเนินการ โดยขอให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร่วมกับกระทรวงการคลังดูแลเสถียรภาพค่า เพราะขณะนี้เงินบาทแข็งค่าอยู่ในระดับ 28.67 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่าจากต้นปีที่อยู่ในระดับประมาณ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทที่แข็งค่านี้ต่างจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย และจีน ที่เงินอ่อนค่าลง และในวันพรุ่งนี้ จะทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการ ธปท. เพื่อขอให้ออกมาตรการดูแลเงินทุนเคลื่อนย้าย โดยพิจารณาจัดเก็บภาษีเงินทุนไหลเข้าที่มาเก็งกำไรระยะสั้น แต่จะต้องไม่กระทบต่อตลาดเงิน และการระดมทุนของภาคเอกชน และขอให้ ธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากร้อยละ 2.75 ในปัจจุบัน ให้เหลือร้อยละ 2 เพื่อเป็นเครื่องมือในการบริหารเงินทุนไหลเข้าให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อภาคการส่งออก รวมทั้งขอให้มีกลไกให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงการทำประกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยน นอกจากนี้ ส.อ.ท.จะขอนัดหมายเข้าพบผู้ว่าการ ธปท. โดยเร็ว และในการประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท. จังหวัดในวันที่ 28 เมษายนนี้ จะเชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ส่วนการสำรวจผลกระทบจากการปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาททั่วประเทศ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ร้อยละ 80 ระบุว่า มีต้นทุนในการดำเนินธุกิจสูงขึ้นร้อยละ 10-15 โดยร้อยละ 47 ไม่สามารถปรับราคาขายสินค้าได้ ซึ่งในกลุ่มผู้ประกอบการที่ประสบปัญหาขาดทุน ร้อยละ 10.42 ระบุว่า อาจต้องเลิกกิจการ ส่วนร้อยละ 16.67 อาจต้องหยุดการผลิตชั่วคราว แต่ส่วนใหญ่ร้อยละ 58.33 ยังสามารถประคองธุรกิจต่อไปได้ ส่วนการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งภายในของ ส.อ.ท. ที่ยืดเยื้อนานกว่า 5 เดือน รักษาการประธาน ส.อ.ท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้เจรจาร่วมกับกลุ่ม นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธาน ส.อ.ท. เพื่อแก้ไขปัญหา โดยมีผู้ใหญ่ที่เป็นที่เคารพของทั้งสองฝ่ายเข้ามาเป็นคนกลาง โดยคาดว่าจะได้ข้อยุติเร็วๆ นี้ แต่ยังมีอีกหลายเงื่อนไขที่ต้องพูดคุย โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการกำหนดตัวประธาน ส.อ.ท. ซึ่งระหว่างนี้ นายธนิต จะยังดำรงตำแหน่งรักษาการประธาน ส.อ.ท. ต่อไป จนกว่าการแก้ไขปัญหาจะจบลง โดยยืนยันว่า จะไม่ลงชิงตำแหน่งประธาน หากมีการแต่งตั้งประธานคนใหม่ แม้ว่าก่อนการแถลงข่าววันนี้ นายธนิต ระบุว่า จะเป็นการแถลงข่าวเพื่อออกจากตำแหน่งรักษาการประธาน ที่มา : สำันักข่าวไทย อ่าน : 1479 ครั้ง วันที่ : 25/04/2013 |
||||
|