กรุงเทพฯ 18 มี.ค.-นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) ที่มี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ในวันที่ 19-20 มี.ค.55 ที่ จ.ภูเก็ต ภาคเอกชนจะเสนอยุทธศาสตร์พัฒนาเศรษฐกิจภาคใต้ให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งเน้นในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกและลดต้นทุน แก่นักลงทุน ทั้งการสร้างทางรถไฟรางคู่จากกรุงเทพฯ-ชุมพร-ตรัง-ปาดังเบซาร์ และสุไหโก-ลก การพัฒนาถนนทางหลวงหมาย 4 ในบริเวณทะเลอันดามันให้เป็น 4 เลน เพื่อรองรับการขยายตัวของการทำธุรกิจและนักท่องเที่ยว เพราะเอกชนไม่สามารถที่จะนำเงินนับแสนล้านบาทมาลงทุนได้
นอกจากนี้ ภาคเอกชนจะเสนอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาระบบการตรวจสอบการเดินทางผ่านสนามบิน สุวรรณภูมิ เพราะมีนักธุรกิจนักท่องเที่ยวร้องเรียนกันเข้ามาว่า มีขั้นตอนการตรวจสอบที่ล่าช้าส่งผลให้นักธุรกิจต้องใช้เวลาเตรียมตัวล่วง หน้าไปสนามบินนานถึง 3 ชม. จากเดิมที่ใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 2 ชม. เท่านั้น หากไม่เร่งแก้ไขจะยิ่งทำให้ภาพลักษณ์ไทยเสียหายหนักได้ เนื่องจากขั้นตอนต่าง ๆ ล่าช้า
นายธนิต โสรัตน์ รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ผู้ประกอบการภาคใต้ต้องการให้รัฐบาลสร้างระบบรางจากฝั่งอันดามันไปสู่อ่าว ไทยเพื่อสามารถขนส่งสินค้าผ่านไปท่าเรือและไปประเทศมาเลเซียได้สะดวก โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมและยางพารา
สำหรับยุทธศาสตร์พัฒนาภาคใต้ที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลดำเนินการ คือ ในปัจจุบันภาคใต้ยังขาดเรื่องการพัฒนาท่าเรือชายฝั่งใน จ.สงขลา สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และชุมพร ซึ่งปัจจุบันท่าเรือมีอยู่แล้วแต่ไม่มากพอ และส่วนใหญ่เป็นท่าเรือของเอกชนที่ดำเนินการลงทุนเอง ดังนั้น ต้องการให้ภาครัฐมาลงทุนสร้างท่าเรือหลัก เพื่อให้เรือของเอกชนสามารถเข้ามาทำธุรกิจมากขึ้น เนื่องจากตอนนี้เอกชนต้องลงทุนเองสร้างทั้งท่าเรือและถนนเชื่อมต่อ ทำให้ต้นทุนการส่งขนสินค้าทางน้ำเพิ่มขึ้น หากรัฐบาลมีท่าเรือจะประหยัดกว่า และมีการใช้ประโยชน์การขนส่งทางน้ำได้เต็มที่.-สำนักข่าวไทย
ที่มา :www.mcot.net/cfcustom/cache_page/343383.html&safe=on