|
||||
|
||||
ดร.ธนิต แสดงวิสัยทัศน์ ใน "กรุงเทพธุรกิจฟอรั่ม" ครั้งที่ 8 "นโยบายพรรคการเมืองกับขีดแข่งขันของธุรกิจไทย" Shareเวทีวิสัยทัศน์ : กรุงเทพธุรกิจฟอรั่ม เชิญตัวแทนพรรคการเมือง นายคณวัฒน์ วศินสังวร พรรคเพื่อไทย ช่วงเวลานี้การลงพื้นที่หาเสียงของเหล่าผู้สมัครในสนามเลือกตั้งกำลัง เข้มข้น เพราะต่างฝ่ายก็เผยนโยบายเด่น หวังโกยคะแนนเสียงจากมวลชนให้ได้มากที่สุด จังหวะนี้ กรุงเทพธุรกิจฟอรั่ม จึงเกาะติดเดินหน้าเปิดเวทีแสดงวิสัยทัศน์ทางการเมืองกันต่อ ครั้งนี้เปิดประเด็นเรื่อง นโยบายพรรคการเมืองกับขีดแข่งขันของธุรกิจไทย นำสองพรรคใหญ่เผยแผนธุรกิจสร้างรายได้ ครั้งนี้มีตัวแทนจากพรรคการเมืองใหญ่ นักธุรกิจ ผู้ส่งออก และนักวิชาการร่วมเวที ประกอบด้วย นายคณวัฒน์ วศินสังวร พรรคเพื่อไทย ดร.เกียรติ สิทธีอมร พรรคประชาธิปัตย์ นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.วรพล โสคติยานุรักษ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจการเงินการคลัง สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์(นิด้า ) ร่วมให้ความคิดเห็นถึงแนวทางการแข่งขัน นายคณวัฒน์ วศินสังวร จาก พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงนโยบายในการพัฒนาด้านธุรกิจไทยว่า ถ้าจะพูดว่า เราเลิกพึ่งพิงตลาดโลก เรา็ต้องมาสร้างการลงทุนในประเทศ ให้ได้เสียก่อน โดยการสร้างเมกะโปรเจกต์ เพื่อรักษาอัตราการเจริญเติบโตของประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นไปไม่ได้ที่ประเทศ หรือธุรกิจจะเข้มแข็ง ได้โดยเร็ว ถ้าคน ที่อยู่ฐาน ล่างยังอ่อนแอ ดังนั้น พรรคเพื่อไทยจึงมีนโยบายที่เน้นการกระจายทุน เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ แต่สิ่งที่ไม่ทำไม่ได้ คือ การปฏิรูปการศึกษา ที่ต้องเน้นวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ เพราะ ติดที่ ขีดความสามารถประเทศ นั่นหมายถึง ขีดความสามารถ ของ ภาคเอกชน ซึ่งย่อมขึ้นอยู่กับขีดความสามารถของคน ทางด้าน ดร.เกียรติ สิทธีอมร จาก พรรคประชาธิปัตย์ ชี้ให้เห็นเพิ่มเติมถึง เรื่อง ของ ความสามารถในการแข่งขัน ว่า เรื่องที่ต้องทำมากๆ คือการลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์ การพลิกแหลมฉบังให้เป็น HarborC ity เดินหน้าโครงการท่าเรือน้ำลึก และนิคมอุตสาหกรรมทวาย ปรับอู่ตะเภาเป็นสนามบินที่ได้มาตรฐานสากล พร้อมกับการขยายสุวรรณภูมิให้รองรับได้มากขึ้น รวมถึง ทางภาค ของ การผลิตต้องมีมาตรการจูงใจให้เอกชนลงทุนด้าน งาน วิจัย และพัฒนา อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนใน ส่วนภาคการเกษตร ต้อง จัดเป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่ง ก็ได้ มีการวางแผนไว้แล้ว กว่า 50 จังหวัด สุดท้าย นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ฝากคำถามกลับไปยังตัวแทนพรรคการเมืองทั้งสองว่า หากพรรคใดพรรคหนึ่งได้เป็นรัฐบาลจะทำนโยบายของอีกพรรคหรือไม่ เช่น HarborCity นิคมอุตสาหกรรมทวาย แลนด์บริดจ์ และรูปธรรมของนโยบายการศึกษา ที่มาของรายได้ในการทำเมกะโปรเจกต์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีมรดก การปรับค่าแรงที่จะกระทบต้นทุนของภาคเอกชนอย่างมาก รวมถึงแรงงานต่างด้าว 4 ล้านคนจะได้ค่าแรงงานขั้นต่ำด้วยหรือไม่ เรื่องการลงทุนในต่างประเทศ พลังงานทางเลือก ภาวะขาดแคลนแรงงานมีฝีมือ ตลอดจนแผนปรองดองเพื่อลดผลกระทบต่อการท่องเที่ยว และสุดท้ายภาคเอกชนบอกว่าต้องการเห็นรถไฟทางคู่มากกว่ารถไฟความเร็วสูงของ ทั้ง 2 พรรค เพราะการขนส่งไม่จำเป็นต้องใช้ความเร็วเท่ากับการขนส่งคน ผ่านไปกับ 8 หัวข้อฟอรั่ม ก็คงจะเห็นแนวทางนโยบายของแต่ละพรรคได้ ถือเป็นทางเลือกให้ผู้ใช้สิทธิ์ได้นำไปทบทวนการตัดสินใจเลือกคนดีสู่สภาได้ อีกครั้ง เวทีกรุงเทพธุรกิจฟอรั่มก็หวังเพียงเห็นารสัมมนาครั้งนี้จะช่วยทำให้ประเทศ ไทยมองเห็นทิศทางนโยบายสาธารณะที่เป็นประโยชน์เพื่อประชาชนส่วนรวม และพร้อมรับกับการเลือกตั้งใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ อ่าน : 2321 ครั้ง วันที่ : 11/06/2011 |
||||
|