|
||||
|
||||
ภาคเอกชนฝากรัฐบาลใหม่เร่งแก้ปมเศรษฐกิจ หยุดแจกเงิน- วางโรดแมปประเทศ Shareภาคเอกชนขานรับเลือกตั้งใหญ่ 3 ก.ค.นี้ สภาอุตฯ-สภาหอการค้าไทยเห็นพ้องฝากการบ้านรัฐบาลใหม่ต้องทำโรดแมป เศรษฐกิจประเทศระยะยาว "บัณฑูร" จี้แก้โครงสร้างพื้นฐาน 3 ด้าน "การศึกษา-โทรคมนาคม-ระบบกฎหมาย" ส่วนเรื่องเฉพาะหน้าเตรียมพร้อมรายย่อยรับมือการเปิดเสรีอาเซียนปีྲྀ อสังหาฯชงแผนอุ้มคนจนซื้อบ้าน ส่วนธุรกิจรับเหมาเชียร์ลุยเปิดประมูลเยอะ ๆ โปรเจ็กต์รถไฟฟ้า ไฮสปีดเทรน ทางด่วนหลังจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประกาศยุบสภาเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 และจะมีการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ซึ่งการประกาศยุบสภาเป็นไปตามขั้นตอนซึ่งหลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ส่งผลด้านบวกจากทั้งฝ่ายการเมือง ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันแม้จะไม่ได้คาดหวังไว้สูงกับรัฐบาลชุดใหม่ แต่เรียกร้องให้ภาครัฐเน้นหนักเรื่องการผลักดันเศรษฐกิจในภาพรวมมากขึ้น สภาอุตฯฝากการบ้านล่วงหน้า ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ให้ความเห็นว่าสิ่งที่คาดหวังคือให้รัฐบาลใหม่เร่งดำเนินการ 3 เรื่องหลัก 1) ให้ความสำคัญของเศรษฐกิจในประเทศ โดยผลักดันภาคอุตสาหกรรมแข่งขันกับคู่แข่งได้ ด้วยการลดภาระต้นทุน อาทิ ค่าแรงที่สูงเกินกว่าที่ผู้ผลิตจะรับได้, การประกันราคาพืชเกษตรที่สูงกว่าราคาตลาดโลก ฯลฯ 2) สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ให้สำเร็จ เช่น ระบบรถไฟฟ้ารางคู่, ท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3, การปรับปรุงสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งทำให้เอกชนมีต้นทุนลดลง และ 3) การดูแลเงินเฟ้อไม่สูงเกินไป สำหรับ ผลการดำเนินการของรัฐบาลโดยภาพรวมตนให้ 75 จาก 100 คะแนนที่ผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) เพิ่มขึ้นถึง 8% อีกทั้งความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชนก็มีการประสานงานกันใกล้ชิด และยอมรับฟังความคิดเห็นของเอกชนมากกว่ารัฐบาลที่ผ่านมา ข้อเสียคือเรื่องการคอร์รัปชั่นที่ยังมีอยู่ และนโยบายประชานิยม "นโยบาย ของรัฐบาลที่ผ่าน ๆ มาหลายเรื่องมุ่งเน้นไปที่ประชานิยม ซึ่งเป็นลักษณะเหวี่ยงแห เช่น รถไฟฟรี ค่าไฟฟรี รถเมล์ฟรี เป็นต้น ไม่ได้เจาะจงช่วยเหลือเฉพาะกลุ่มยากจน หรือด้อยโอกาส กลายเป็นภาระของประเทศ เพราะเป็นภาษีประชาชนทั้งสิ้น รัฐบาลใหม่ต้องทบทวนนโยบายประชานิยมให้สอด คล้องกับประเทศไทย ไม่ใช่เพียงหวังผลการเมืองอย่างเดียว" นายธนิตกล่าว สภาหอฯ แนะทำโรดแมปประเทศ นาย ดุสิต นนทะนาคร ประธานสภาหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ประเด็นที่อยากให้รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญและตระหนักต่อเรื่องการเปิดเขตการ ค้าเสรีตามกรอบข้อตกลงของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ที่ทุกประเทศในอาเซียนต้องลดภาษีสินค้านำเข้า-ส่งออกเหลือ 0% ในปี 2558 เพื่อ เตรียมการรองรับไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบการภายในประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมที่ขณะนี้ยังไม่มีความรู้ความเข้า ใจเรื่องนี้อย่างเพียงพอ นอกจากนี้อยากให้วางเป้าหมายการพัฒนาประเทศ ระยะยาว 10-20 ปีให้ชัดเจนว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปในทิศทางใด เพราะขณะนี้ประเทศในภูมิภาคนี้ไม่ว่าจะเป็นมาเลเซีย, สิงคโปร์, เวียดนาม วางแผนพัฒนาประเทศ และวางเป้าไปสู่อนาคตแล้ว ในขณะที่ไทยยังวางแผนการพัฒนาแค่ระยะสั้นเท่านั้น "เสี่ยปั้น" ชี้ต้องแก้ 3 โจทย์ใหญ่ ด้าน นายบัณฑูร ล่ำซำ ประธาน เจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โจทย์ใหญ่ที่เห็นว่ารัฐบาลชุดใหม่ต้องเข้ามาแก้ไข คือ การสร้างความสงบในการอยู่ร่วมกันของคนในประเทศ เพื่อให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน คือ 1.การศึกษา 2.ระบบคมนาคม-โทรคมนาคม และ 3.ระบบกฎหมาย เพราะหาก กฎหมายไม่ชัดเจน จะเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาชีวิตประชาชน "ทั้ง 3 ส่วนเป็นสิ่งที่รัฐบาลใดก็ตามที่จะมาบริหารประเทศ ควรที่จะพัฒนา แต่ที่ผ่านมามีเรื่องวุ่นวายเป็นรายวัน รัฐบาลไม่มีเวลามาแก้ปัญหาระยะยาวได้ แต่ถ้าทั้ง 3 ส่วนนี้ได้รับการดูแล จะทำให้การลงทุนของภาคเอกชนต่อเนื่อง และเศรษฐกิจดีตามไปด้วย" ชี้เงินสะพัดมากกว่าทุกครั้ง ขณะ ที่นายบุญชัย โชควัฒนา ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หลังยุบสภาและมีการเลือกตั้งจะเกิดสถานการณ์ที่เรียกว่า "เงินสะพัด" ทำให้ผู้บริโภคจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นที่สำคัญการเลือกตั้งครั้งนี้เชื่อว่าจะ มีการ "ใช้เงินมากกว่าปกติ" กว่าทุก ๆ ครั้ง เพราะเป็นการแข่งขันของ 2 ขั้วการเมืองขนาดใหญ่ ซึ่งต่างต้องการชัยชนะ จริง ๆ แล้วส่วนตัวไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง การใช้เงินหาเสียงเลือกตั้ง เพราะไม่ได้ส่งผลดีต่อประเทศชาติ อย่างไรก็ตาม การประกาศยุบสภาครั้งนี้ซึ่งเป็นไปด้วยดี จึงเกิดแต่สัญญาณทางบวก ตนเชื่อว่าทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ที่ดูอึดอัด ตึงเครียดก่อนหน้านี้ผ่อนคลายลง อสังหาฯ ชงช่วยคนจนซื้อบ้าน สำหรับ ข้อเรียกร้องของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นายอิสระ บุญยัง นายกสมาคมธุรกิจบ้านจัดสรร ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่ทำคือ 1.ผลักดันกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง 2.ทบทวนโครงสร้างภาษีการซื้อขายเปลี่ยนมืออสังหาฯทั้งหมด 3.ช่วยเหลือ ผู้มีรายได้น้อยและปานกลางให้ซื้อบ้านเป็นของตนเองได้ อาทิ ดอกเบี้ย 0% ที่กำหนดเฉพาะเจาะจงเช่นต้องซื้อบ้านไม่เกิน 1-1.5 ล้านบาท ฯลฯ โดยทำเป็นมาตรการระยะยาว และให้ยกเว้นค่าโอน จดจำนอง และยกเว้นค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนมืออสังหาริมทรัพย์ รับเหมาเชียร์ประมูลงานเยอะ ๆ นาย พลพัฒ กรรณสูต นายกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า อยากได้รัฐบาลที่มีแผนการพัฒนาประเทศให้เกิดขึ้นได้ เร็ว ๆ อย่างเช่น การก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่ ทั้งการก่อสร้างรถไฟฟ้า ไฮสปีดเทรน ถนน ทางด่วน ฯลฯ โดยเร่งออกประมูลงานให้มากขึ้น เพื่อช่วยภาคธุรกิจก่อสร้าง หากมีงานก่อสร้างมากขึ้นจะส่งผลดีต่อธุรกิจต่อเนื่องทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นวัสดุก่อสร้าง ภาคแรงงาน และต้องการให้รัฐบาลใหม่ช่วยเปิดตลาดงานก่อสร้างในต่างประเทศเพื่อให้ผู้รับ เหมาไทยสามารถออกไปประมูลแข่งขันในตลาดทั่วโลกได้ ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ อ่าน : 1965 ครั้ง วันที่ : 16/05/2011 |
||||
|