ห่วงยืดเยื้อค้าชายแดนกระทบหนักหวั่นกัมพูชาเลิกซื้อสินค้าไทย-ธปท.ชี้ไม่ฉุดภาพรวม Share


    ธปท.มองปัญหาไทย-กัมพูชากระทบเศรษฐกิจรวมไม่มาก ส.อ.ท.นัดหารือผลกระทบ 26 เมษายนนี้ กังวลกระทบส่งสินค้าไปเวียดนาม ด้านหอการค้าฯ ห่วงยืดเยื้อเกิน 6 เดือนการค้าชายแดนวูบ กัมพูชาอาจเบนเข็มไปซื้อสินค้าจากประเทศอื่นแทน

     นายเมธี สุภาพงษ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายเศรษฐกิจในประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า เหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ยังไม่มีผลกระทบต่อการค้าชายแดนระหว่างกันมากนัก อย่างไรก็ตาม มูลค่าการค้าขายระหว่างไทยกับกัมพูชามี สัดส่วนไม่สูงมากนัก หากมีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว จึงไม่น่ากระทบต่อภาพรวมการค้าขายของประเทศมากนัก

     ทั้งนี้ ธปท.เคยระบุว่า การส่งออกของไทยไปยังกัมพูชามี ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของมูลค่าการส่งออกรวม และหากเทียบกับมูลค่าของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ก็มีสัดส่วนไม่ถึง 1% เช่นเดียวกัน

     ขณะที่ ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 เมษายนนี้ จะมีการประชุมคณะกรรมการร่วมเอกชนชายแดนไทย-เขมรเป็นครั้งแรก เพื่อพิจารณาถึงผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวต่อเศรษฐกิจ เพราะหากเหตุการณ์ยืดเยื้อจะไม่ได้กระทบเพียงการค้าชายแดนเขมรที่มีอยู่ เพียง 5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น แต่จะกระทบต่อการขนส่งสินค้าไทยไปประเทศเวียดนาม ผ่านเส้นทางสาย 48 ซึ่งมียอดส่งออกสินค้าอาหารและเกษตรประมาณ 20% ของการส่งออกไปเวียดนามทั้งหมด

     นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า หากการปะทะบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา มีความยืดเยื้อถึง 6 เดือน ก็จะกระทบต่อการส่งออกและการค้าขายชายแดนระหว่างกันหายไปถึง 50% ซึ่งไทยได้รับผลกระทบมากกว่า โดยเฉพาะด้านการส่งออก ส่วนการท่องเที่ยวก็ลดลงเช่นเดียวกัน แต่หากปัญหาจบเร็วการส่งออกและการท่องเที่ยวจะกระทบเพียงเล็กน้อย

     ด้านนายนิยม ไวยรัชพานิช ประธานคณะกรรมการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศและค้าชายแดน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า รู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาจะ ยืดเยื้อ ซึ่งหากต้องปิดด่านช่องสะงำและช่องจอมถาวรหรือระยะยาว จะส่งผลกระทบต่อการค้าการลงทุนมาก โดยเฉพาะทาง จ.สุรินทร์และบุรีรัมย์ ขณะนี้การค้าปิดสนิทเสียหายเดือนละประมาณ 100 กว่าล้านบาท และหากมีการพัฒนาความขัดแย้งรุนแรงมากขึ้น ก็จะทำให้เกิดผลกระทบตามมาอีกมาก

 ปัจจุบันกัมพูชาพึ่งพาการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคจากไทยจำนวนมาก ซึ่งสินค้าที่ใช้อยู่ในกัมพูชากว่า 90% นำเข้าจากไทย ผ่านด่านการค้าหลายแห่ง เช่น จ.สระแก้ว จ.ตราด จ.จันทบุรี ทุกด่านรวมกันปีละประมาณ 80,000-100,000 ล้านบาท

 "หากสถานการณ์ยืดเยื้อจนต้องปิดด่าน การค้าหายไปแล้วก็จะกลับมายาก โดยกัมพูชาอาจจะหันไปนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นๆ เช่น เวียดนาม จีน ไต้หวัน สหรัฐ เกาหลี ฟิลิปปินส์ มาเลเซียแทน" นายนิยม กล่าว


ที่มา : คม ชัด ลึก



อ่าน : 1608 ครั้ง
วันที่ : 26/04/2011

Contact : V-SERVE GROUP 709/54-55 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง  กทม. 10250 โทรศัพท์. 0 2332 3940-9 โทรสาร. 0 2332 0754
E-mail: tanit@v-servegroup.com