กรุงเทพฯ 23 มี.ค.- นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังการเสวนา เรื่อง ผลกระทบเศรษฐกิจไทย กรณีสึนามิ และการรองรับวิกฤตนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า ส.อ.ท. คาดว่า ผลกระทบสึนามิต่อญี่ปุ่นจะส่งผลกระทบต่อเนื่องมาสู่เศรษฐกิจไทยค่อนข้างน้อยประมาณร้อยละ 0.1 และเชื่อว่าเป็นสถานการณ์ในระยะสั้น เพราะจะกระทบใน 13 กลุ่มอุตสาหกรรม อาทิ ยานยนต์  อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า อัญมณี สิ่งทอ และเครื่องนุ่งห่ม เนื่องจากญี่ปุ่นถือเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญในสินค้าเหล่านี้

ด้านภาคการท่องเที่ยวของไทย คาดว่านักท่องเที่ยวญี่ปุ่นทั้งขาออกและขาเข้าประเทศไทย จะลดลง 100,000 คน รายได้ด้านท่องเที่ยวของไทยจึงลดลง 15,000-20,000 ล้านบาท จากที่ปี 2553 มีนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย 9.8 แสนคน หรือคิดเป็นร้อยละ 6.2 ของนักท่องเที่ยวรวม อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางวิกฤตนี้ สินค้า 8 กลุ่ม ไทยสามารถส่งออกไปขายญี่ปุ่นได้มากขึ้น เช่น อุตสาหกรรมอาหาร และก่อสร้าง เป็นต้น

นายธนิต เชื่อว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจได้ภายใน 6 เดือน และฟื้นฟูสิ่งปลูกสร้างและระบบสาธารณูปโภคของประเทศได้ภายใน 3 ปี จึงทำให้ในระยะยาว ประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบดังกล่าวอย่างแน่นอน  อย่างไรก็ตาม สภาอุตสาหกรรมได้หารือกับรัฐบาล ถึงแนวทางในการผลักดันให้ไทยก้าวขึ้นเป็นฐานการผลิตที่สำคัญของญี่ปุ่นมากขึ้น ด้วยการให้พิจารณาการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอมากขึ้น แต่รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการไทย ไม่ให้เสียเปรียบผู้ประกอบการต่างชาติด้วย โดยการให้ปรับลดภาษีนิติบุคคล เหลือร้อยละ 18-20 จากปัจจุบันที่อยู่ร้อยละ 30
 
สำหรับการลงทุนของญี่ปุ่นในกลุ่มประเทศอาเซียนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา พบว่า เวียดนาม เป็นประเทศที่ญี่ปุ่นเข้าไปลงทุนมากเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาคือ อินโดนีเซีย ส่วนประเทศไทยญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนเป็นอันดับที่ 3 แต่ในขณะนี้ ประเทศเวียดนามประสบปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ จึงเป็นโอกาสที่ไทยจะดึงการลงทุนจากประเทศญี่ปุ่นได้มากขึ้น. -สำนักข่าวไทย