โพสต์ทูเดย์ 28 ก.พ.54

สภาอุตฯ สะดุ้ง ปชป.หาเสียงเพิ่มค่าแรงระลอกสอง

ทันทีที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ประกาศนโยบายหาเสียงเลือกตั้งด้วยการขึ้นค่าแรงอีกรอบเริ่มมีเสียงท้วงติงออกมา

“เป็นวิธีการที่ง่ายเกินไป ที่แก้ปัญหาเงินเฟ้อ ของแพง ด้วยการปรับขึ้นค่าแรง ให้ภาคเอกชนแบกรับภาระต้นทุนและการปรับค่าแรงก็เพิ่งปรับไปในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา” นายธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าว

นายธนิต เปิดเผยว่า การประชุมไตรภาคีเป็นกลไกในการพิจารณาค่าแรงอยู่แล้ว ภาคการเมืองไม่ควรเข้าไปแทรกแซง นำมาใช้เป็นวิธีการหาเสียงเป็นประชานิยม เพราะจะมีผลกระทบตามมาในระยะยาว

ทั้งนี้ นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรค ปชป. กล่าวว่า นโยบายเพื่อประชาชนในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่สูงขึ้นมี 3 ด้าน คือ 1.เพิ่มค่าแรงของผู้ใช้แรงงานขั้นต่ำให้สูงกว่า 300 บาท และยกระดับค่าแรงในทุกสาขาอาชีพให้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 25% ภายในระยะเวลา 2 ปีนับจากประกาศนโยบาย

ด้านที่ 2 ยกระดับความเป็นอยู่ของภาคเกษตรกรรม โดยประกันราคาสินค้าเกษตรทุกตัว และ 3.เพิ่มเงินเดือนให้กับลูกจ้างพนักงานบริษัทรัฐวิสาหกิจและข้าราชการ

ขณะที่เมื่อวันที่ 27 ก.พ. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ปชป. ได้ร่วมเปิดแคมเปญหาเสียงเลือกตั้งชุดแรกที่บริเวณลานอเนกประสงค์ตลาดนัดสวนจตุจักร

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นโยบายต่างๆ ของพรรคที่ออกมาถือเคล็ดเลข 25 ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาอีก 2.5 แสนทุน โฉนดชุมชนจะเพิ่มเป็น 2.5 แสนราย

“บอกแล้วว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าประมาณกลางปีจะได้ สส. 250 คน ซึ่งถ้าเลือกพรรค ปชป. ก็จะเดินหน้านโยบายเพื่อประชาชนต่อไป” นายอภิสิทธิ์ กล่าว