ตุ๊กตาลูกเทพ...ที่พึ่งทางใจยามเศรษฐกิจซึมยาว

โดย  ดร.ธนิต  โสรัตน์

รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559

           

            สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเด่นหลายเรื่อง เช่น ข่าวต่างประเทศเป็นเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยแบบจิ๊บจ๊อยตามคาดหมาย ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายติดลบซึ่งจะต้องติดตามผลกระทบที่มีต่ออัตราแลกเปลี่ยน สำหรับร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าดีและไม่ดี ส่วนพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคประกาศจุดยืนไม่เอาด้วย แต่ข่าวตุ๊กตาลูกเทพกลับกลายเป็นข่าวฮอตสุดๆ แย่งพื้นที่สื่อมวลชนทุแขนงรวมไปถึงสื่อประเภทการเมืองและเศรษฐกิจยังไม่ยอมตกขบวนกลัวเสียเรตติ้ง

            ฟีเวอร์ตุ๊กตาลูกเทพเป็นเทรนใหม่ของสังคมไทยคลั่งไคล้ทั้งดารา ไฮโซ วัยรุ่นและไม่รุ่นรวมไปถึงนักธุรกิจ นัยว่าเป็นการเชิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพิ่มพลังลงไปในตัวตุ๊กตา บ้างเอาไว้เสริมบารมี โชคลาภ บ้างก็ดูแลเหมือนเป็นลูก เป็นน้อง เป็นเพื่อน ต้องคุยด้วยพาไปเที่ยว ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เผอิญเป็นข่าวเพราะดันพาไปขึ้นเครื่องบินแถมซื้อตั๋วให้นั่งทำให้ผู้โดยสารชักผวา

            ประเด็นฟีเวอร์ตุ๊กตาลูกเทพไปไกลจนถึงระดับประเทศ เห็นได้จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาสั่งการปรามสายการบินและให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในการดูแลมีการเรียกประชุมสายการบินต่างๆห้ามจำหน่ายตั๋วเครื่องบินให้ลูกเทพ และให้มีการออกระเบียบ-มาตรการเกี่ยวกับการนำผ่านสนามบินและขึ้นเครื่อง ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงต้องออกมาตรการใหม่ๆ เพราะผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องบินก็ต้องถูกสแกน ส่วนสัมภาระก็ต้องผ่านเอ็กซ์เรย์ บางครั้งยังต้องถอดรองเท้า ถอดเข็มขัด เป็นมาตรการปกติของสนามบินทั่วโลก หรือที่ผ่านมาของไทยทำบ้างไม่ทำบ้าง

            คำถามว่าทำไมสังคม (บางส่วน) จึงฟีเวอร์ คลั่งไคล้ และทำไมผู้คนซึ่งในยามนี้มีเรื่องสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจฝืดเคืองซึมยาวแก้ไม่ตก และการเมืองที่สับสนแต่ยังกลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องจนเป็นข่าวครึกโครม ตุ๊กตาลูกเทพสะท้อนถึงสภาวะจิตใจที่สับสนของประชาชน ซึ่งขาดที่พึ่งทางใจ หาทางออกด้วยเหตุผลให้ชีวิตไม่ได้ จนนำไปสู่การต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และปฏิหาริย์

            ผมไม่อยากให้สังคมมองคนอุ้มตุ๊กตาลูกเทพว่าเป็นคนแปลกประหลาดหรือพระสงฆ์องค์เจ้าออกมาตำหนิว่าไม่ใช่หนทางพุทธศาสนา เพราะหากมองเช่นนั้นก็ต้องตำหนิผู้ที่บูชา-แขวนลูกประคำ ปลัดขิก ของขลังหรือบูชารูปเคารพ-เทวรูปต่างๆ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ  เร็วๆนี้ผมมีโอกาสไปบูชารับพระราหู ณ วัดดังกลาง กทม. เจอทั้งข้าราชการระดับผู้ใหญ่ นายพลบิ๊กๆทั้งทหารและตำรวจรวมทั้งเศรษฐีใหญ่คับคั่งผู้พิธีล้วนเป็นพระสงฆ์ผู้ใหญ่ทั้งสิ้น

            ตุ๊กตาลูกเทพเป็นการสะท้อนปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ หากตราบใดไม่เป็นการล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลจนเกินพอดีหรือไม่ทำผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ควรเป็นเรื่องประชาธิปไตยส่วนบุคคลต่อไปเด็กหรือไม่เด็กอุ้มตุ๊กตาจะไปเหมาเข่งว่าเป็นตุ๊กตาเทพไปทั้งหมดคงไม่ได้ คนไทยนั้นขี้เห่อชอบตามกันชั่วครั้งชั่วคร่าวเดียวก็หมดไปเอง...จริงไหมครับ (สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์  www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)

*****************************

" />
       
 

ตุ๊กตาลูกเทพ...ที่พึ่งทางใจยามเศรษฐกิจซึมยาว Share


ตุ๊กตาลูกเทพ...ที่พึ่งทางใจยามเศรษฐกิจซึมยาว

โดย  ดร.ธนิต  โสรัตน์

รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย

วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559

           

            สัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวเด่นหลายเรื่อง เช่น ข่าวต่างประเทศเป็นเรื่องที่ธนาคารกลางสหรัฐปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยแบบจิ๊บจ๊อยตามคาดหมาย ขณะที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายติดลบซึ่งจะต้องติดตามผลกระทบที่มีต่ออัตราแลกเปลี่ยน สำหรับร่างรัฐธรรมนูญที่ออกมามีการวิพากษ์วิจารณ์ว่าดีและไม่ดี ส่วนพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรคประกาศจุดยืนไม่เอาด้วย แต่ข่าวตุ๊กตาลูกเทพกลับกลายเป็นข่าวฮอตสุดๆ แย่งพื้นที่สื่อมวลชนทุแขนงรวมไปถึงสื่อประเภทการเมืองและเศรษฐกิจยังไม่ยอมตกขบวนกลัวเสียเรตติ้ง

            ฟีเวอร์ตุ๊กตาลูกเทพเป็นเทรนใหม่ของสังคมไทยคลั่งไคล้ทั้งดารา ไฮโซ วัยรุ่นและไม่รุ่นรวมไปถึงนักธุรกิจ นัยว่าเป็นการเชิญญาณสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพิ่มพลังลงไปในตัวตุ๊กตา บ้างเอาไว้เสริมบารมี โชคลาภ บ้างก็ดูแลเหมือนเป็นลูก เป็นน้อง เป็นเพื่อน ต้องคุยด้วยพาไปเที่ยว ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เป็นความเชื่อส่วนบุคคล เผอิญเป็นข่าวเพราะดันพาไปขึ้นเครื่องบินแถมซื้อตั๋วให้นั่งทำให้ผู้โดยสารชักผวา

            ประเด็นฟีเวอร์ตุ๊กตาลูกเทพไปไกลจนถึงระดับประเทศ เห็นได้จากการที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ออกมาสั่งการปรามสายการบินและให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องเข้มงวดในการดูแลมีการเรียกประชุมสายการบินต่างๆห้ามจำหน่ายตั๋วเครื่องบินให้ลูกเทพ และให้มีการออกระเบียบ-มาตรการเกี่ยวกับการนำผ่านสนามบินและขึ้นเครื่อง ซึ่งก็ไม่เข้าใจว่าทำไมจึงต้องออกมาตรการใหม่ๆ เพราะผู้โดยสารที่ขึ้นเครื่องบินก็ต้องถูกสแกน ส่วนสัมภาระก็ต้องผ่านเอ็กซ์เรย์ บางครั้งยังต้องถอดรองเท้า ถอดเข็มขัด เป็นมาตรการปกติของสนามบินทั่วโลก หรือที่ผ่านมาของไทยทำบ้างไม่ทำบ้าง

            คำถามว่าทำไมสังคม (บางส่วน) จึงฟีเวอร์ คลั่งไคล้ และทำไมผู้คนซึ่งในยามนี้มีเรื่องสำคัญทั้งด้านเศรษฐกิจฝืดเคืองซึมยาวแก้ไม่ตก และการเมืองที่สับสนแต่ยังกลับมาให้ความสำคัญกับเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องจนเป็นข่าวครึกโครม ตุ๊กตาลูกเทพสะท้อนถึงสภาวะจิตใจที่สับสนของประชาชน ซึ่งขาดที่พึ่งทางใจ หาทางออกด้วยเหตุผลให้ชีวิตไม่ได้ จนนำไปสู่การต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์และปฏิหาริย์

            ผมไม่อยากให้สังคมมองคนอุ้มตุ๊กตาลูกเทพว่าเป็นคนแปลกประหลาดหรือพระสงฆ์องค์เจ้าออกมาตำหนิว่าไม่ใช่หนทางพุทธศาสนา เพราะหากมองเช่นนั้นก็ต้องตำหนิผู้ที่บูชา-แขวนลูกประคำ ปลัดขิก ของขลังหรือบูชารูปเคารพ-เทวรูปต่างๆ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาพุทธ  เร็วๆนี้ผมมีโอกาสไปบูชารับพระราหู ณ วัดดังกลาง กทม. เจอทั้งข้าราชการระดับผู้ใหญ่ นายพลบิ๊กๆทั้งทหารและตำรวจรวมทั้งเศรษฐีใหญ่คับคั่งผู้พิธีล้วนเป็นพระสงฆ์ผู้ใหญ่ทั้งสิ้น

            ตุ๊กตาลูกเทพเป็นการสะท้อนปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ หากตราบใดไม่เป็นการล่วงล้ำสิทธิส่วนบุคคลจนเกินพอดีหรือไม่ทำผิดระเบียบ ผิดกฎหมาย ควรเป็นเรื่องประชาธิปไตยส่วนบุคคลต่อไปเด็กหรือไม่เด็กอุ้มตุ๊กตาจะไปเหมาเข่งว่าเป็นตุ๊กตาเทพไปทั้งหมดคงไม่ได้ คนไทยนั้นขี้เห่อชอบตามกันชั่วครั้งชั่วคร่าวเดียวก็หมดไปเอง...จริงไหมครับ (สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์  www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)

*****************************


ไฟล์ประกอบ : ตุ๊กตาลูกเทพ...ที่พึ่งทางใจยามเศรษฐกิจซึมยาว1-2-59.doc
อ่าน : 1591 ครั้ง
วันที่ : 02/02/2016

Contact : V-SERVE GROUP 709/54-55 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง  กทม. 10250 โทรศัพท์. 0 2332 3940-9 โทรสาร. 0 2332 0754
E-mail: tanit@v-servegroup.com