แผนการตลาดศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ

นำเสนอประทรวงคมนาคม

โดย ดร.ธนิต โสรัตน์

ประธานกรรมการ V-SERVE GROUP

7 มกราคม 2552

          การศึกษายุทธศาสตร์ด้านการตลาดของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ จะต้องเข้าใจในฐานะเป็นเส้นทางเลือกของการขนส่งทางแม่น้ำโขง โดยมีท่าเรือเชียงแสนเป็น Gateway สำหรับศูนย์กระจายสินค้าเชียงของจะเป็น Gateway ของการขนส่งทางบกในการเชื่อมโยงกับประเทศจีนทางถนน ดังนั้น จะต้องทำความเข้าใจสถานะของเส้นทาง R3E ว่าไม่ใช่เป็นเพียงถนนที่เชื่อมโยงกับประเทศจีน แต่จะต้องเข้าใจถึงสถานะที่เป็นเส้นทางการค้าในการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ รวมทั้ง ลักษณะการปฏิสัมพันธ์เชิงอำนาจทางเศรษฐกิจระหว่างไทย กับประเทศจีน เนื่องจากเส้นทาง R3E ไม่ใช่มีปลายทางอยู่ที่ชายแดนของ สปป.ลาว แต่เป็นเส้นทางที่มีจุดหมายปลายทางสู่จีน ความสัมฤทธิ์ผลของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของจึงไม่ควรให้ความสำคัญเพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่จะต้องให้ความสำคัญของเครือข่ายที่จะเชื่อมโยงกับเส้นทางขนส่งสินค้าไทยกับจีนตอนใต้ ภายใต้เส้นทางระเบียงเหนือ-ใต้ R3E จึงต้องมีความชัดเจนของแผน เป้าหมาย ผลลัพธ์ และมียุทธศาสตร์ ในฐานะ เป็นเส้นทางที่เป็นระเบียงเศรษฐกิจ (Economic Corridor Link) กับประเทศจีน ซึ่งมีนครคุนหมิงเป็นศูนย์กลางของจีนภาคใต้ กับภาคเหนือของประเทศไทย ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าเชียงของจะรองรับสินค้าภายใต้เป็นเส้นทาง New Trade Lane คือเป็นเส้นทางการค้าใหม่ทางถนนของประเทศจีน เพราะจะเป็นเส้นทางหลักของไทยที่สั้นที่สุดที่จะเชื่อมโยงการขนส่งทางถนนไปประเทศจีนตอนใต้ ด้วยระยะทาง 228 กิโลเมตร จากอำเภอเชียงของ  (บ้านดอนมหาวัน) กับเมืองบ้านดอน (ฝั่งลาว) ในแขวงบ่อแก้ว กับแขวงหลวงน้ำทา โดยเส้นทางนี้น่าจะเป็นเส้นทางหลักของการลำเลียงสินค้าราคาถูกของจีนเข้าสู่ประเทศไทย รวมทั้ง สินค้าจากเวียดนามตอนเหนือก็จะเส้นทางนี้เป็นการระบายสินค้าเข้าสู่ประเทศไทย

ระยะทางของเส้นทาง R3E จากกรุงเทพ – คุนหมิง  (ที่มา : จากเอกสารการประชุม GMS)

ความสัมฤทธิ์ผลเชิงพาณิชของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ

          การวางยุทธศาสตร์ด้านการตลาดของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ จะเกี่ยวข้องกับการเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายพาหนะขนส่งของรถบรรทุกระหว่างไทยกับรถบรรทุกของประเทศจีน ในลักษณะที่เป็น ICD และเป็น CY Yard คือเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายพาหนะขนส่งจากไทยไปจีนและจากจีนมาไทย โดยเป็นการผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมแบบ Co-Production และเขตอุตสาหกรรมชายแดน จำเป็นจะต้องมีสถานที่รองรับสินค้าประเภทตู้คอนเทนเนอร์และสินค้าประเภท Bulk Cargoes มีการจัดพื้นที่เขตปลอดภาษี (Free Zone) รองรับการขนส่งสินค้าผ่านแดนที่เป็น Transshipment ซึ่งในส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับ Hard Ware และ Infrastructure โดยกรมขนส่งทางบกน่าจะเข้ามาเป็นเจ้าภาพบริหารจัดการ โดยอาจใช้ต้นแบบ ICD ลาดกระบัง อย่างไรก็ดี การวางยุทธศาสตร์ศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ ในฐานะเป็นเส้นทางขนส่งและกระจายสินค้าของภูมิภาค จะต้องกำหนดแผนงานด้านการตลาดร่วมกับแผนงานด้านโลจิสติกส์และการบูรณาการ โครงสร้างพื้นที่คมนาคมขนส่งทุกโหมด เพื่อให้เกิดการ Shift Mode ทั้งที่มีอยู่แล้วและโครงการในอนาคต โดยการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังและสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งระบบการขนส่งทางราง เพื่อให้สามารถต่อยอดเชื่อมโยงกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ซึ่งจะสร้างเสร็จในปี 2554 ทั้งนี้ จะต้องนำเส้นทาง East-West Economic Corridor ทั้งด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตากและสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ที่จังหวัดมุกดาหาร เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด โดยให้เชื่อมโยงกับแผนย่อยดังนี้

1)   New Trade Lane เส้นทางการกระจายสินค้าส่งออกของไทยไปสู่ตลาดจีน ประเด็นสำคัญคือ สินค้าของไทยรายการใดบ้าง ซึ่งมีศักยภาพในด้านต้นทุนและรูปแบบในการเข้าสู่ตลาดจีน

2)   Area Base มีการศึกษาถึงกฎเกณฑ์และข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคของจุดหมายปลายทาง (Destination Focus) โดยศึกษาทั้งในระดับแขวงของ สปป. ลาว และในการเข้าถึงแต่ละมณฑลของประเทศจีน เพราะประเทศจีนมีพื้นที่กว้างขวางและประชาชนมีจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

3)   Commodities Base จะต้องมีการศึกษาถึงสินค้าทั้งด้านเกษตร , เกษตรแปรรูป และสินค้าอุตสาหกรรม ว่าประเภทใดมีศักยภาพที่จะเข้าไปแข่งขันในตลาดของประเทศจีน และสินค้าประเภทใดที่ไทยอาจสูญเสียตลาด ทั้งในประเทศและชายแดน ซึ่งประเด็นนี้จะทำเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุกและเชิงรับ และควรมีการจัดทำวิจัยเชิงลึก ออกมาเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการของไทยได้ทราบ

4)   Distribution Model ต้องมีการศึกษาแนววิธีในการกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดจีน ซึ่งไม่ใช่หมายถึง เพียงแต่การขนส่ง แต่หมายถึงระบบการจัดส่งและส่งมอบแบบ Door to Door ซึ่งประเทศจีนมีระบบศุลกากร และการคำนวณภาษี ซึ่งยังไม่เป็นสากล รวมทั้ง ยังมีระบบ NTB ทั้งที่เป็นรูปแบบและไม่เป็นรูปแบบ ซึ่งการเข้าถึงตลาดจีนเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

ความสำเร็จของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ จะต้องเชื่อมโยงให้เกิดเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมชายแดน รวมทั้ง เขตปลอดภาษีและคนงานต่างด้าว (นอกโควต้า) ให้สามารถเคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมชายแดนแบบเช้าไป-เย็นกลับ โดยประเด็นของการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างเสรี ภายใต้ข้อจำกัดของระเบียบด้านความมั่นคง จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้มีการเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมเข้ามาในบริเวณอำเภอเชียงของ เนื่องจากยังมีอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งยังไม่พร้อมจะไปลงทุนเต็มรูปแบบในประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะเป็นการใช้ศักยภาพเช่นด้านแรงงาน โดยนำวัตถุดิบไปประกอบ บรรจุ เช่น สิ่งทอ เพื่อผลิตเป็น Semi-Finished Goods แล้วนำกลับมาในประเทศไทย เพื่อมาผลิตในขั้นสุดท้าย

" />
       
 

แผนการตลาดศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ Share


แผนการตลาดศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ

นำเสนอประทรวงคมนาคม

โดย ดร.ธนิต โสรัตน์

ประธานกรรมการ V-SERVE GROUP

7 มกราคม 2552

          การศึกษายุทธศาสตร์ด้านการตลาดของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ จะต้องเข้าใจในฐานะเป็นเส้นทางเลือกของการขนส่งทางแม่น้ำโขง โดยมีท่าเรือเชียงแสนเป็น Gateway สำหรับศูนย์กระจายสินค้าเชียงของจะเป็น Gateway ของการขนส่งทางบกในการเชื่อมโยงกับประเทศจีนทางถนน ดังนั้น จะต้องทำความเข้าใจสถานะของเส้นทาง R3E ว่าไม่ใช่เป็นเพียงถนนที่เชื่อมโยงกับประเทศจีน แต่จะต้องเข้าใจถึงสถานะที่เป็นเส้นทางการค้าในการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจ รวมทั้ง ลักษณะการปฏิสัมพันธ์เชิงอำนาจทางเศรษฐกิจระหว่างไทย กับประเทศจีน เนื่องจากเส้นทาง R3E ไม่ใช่มีปลายทางอยู่ที่ชายแดนของ สปป.ลาว แต่เป็นเส้นทางที่มีจุดหมายปลายทางสู่จีน ความสัมฤทธิ์ผลของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของจึงไม่ควรให้ความสำคัญเพียงโครงสร้างพื้นฐาน แต่จะต้องให้ความสำคัญของเครือข่ายที่จะเชื่อมโยงกับเส้นทางขนส่งสินค้าไทยกับจีนตอนใต้ ภายใต้เส้นทางระเบียงเหนือ-ใต้ R3E จึงต้องมีความชัดเจนของแผน เป้าหมาย ผลลัพธ์ และมียุทธศาสตร์ ในฐานะ เป็นเส้นทางที่เป็นระเบียงเศรษฐกิจ (Economic Corridor Link) กับประเทศจีน ซึ่งมีนครคุนหมิงเป็นศูนย์กลางของจีนภาคใต้ กับภาคเหนือของประเทศไทย ทั้งนี้ ศูนย์กระจายสินค้าเชียงของจะรองรับสินค้าภายใต้เป็นเส้นทาง New Trade Lane คือเป็นเส้นทางการค้าใหม่ทางถนนของประเทศจีน เพราะจะเป็นเส้นทางหลักของไทยที่สั้นที่สุดที่จะเชื่อมโยงการขนส่งทางถนนไปประเทศจีนตอนใต้ ด้วยระยะทาง 228 กิโลเมตร จากอำเภอเชียงของ  (บ้านดอนมหาวัน) กับเมืองบ้านดอน (ฝั่งลาว) ในแขวงบ่อแก้ว กับแขวงหลวงน้ำทา โดยเส้นทางนี้น่าจะเป็นเส้นทางหลักของการลำเลียงสินค้าราคาถูกของจีนเข้าสู่ประเทศไทย รวมทั้ง สินค้าจากเวียดนามตอนเหนือก็จะเส้นทางนี้เป็นการระบายสินค้าเข้าสู่ประเทศไทย

ระยะทางของเส้นทาง R3E จากกรุงเทพ – คุนหมิง  (ที่มา : จากเอกสารการประชุม GMS)

ความสัมฤทธิ์ผลเชิงพาณิชของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ

          การวางยุทธศาสตร์ด้านการตลาดของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ จะเกี่ยวข้องกับการเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายพาหนะขนส่งของรถบรรทุกระหว่างไทยกับรถบรรทุกของประเทศจีน ในลักษณะที่เป็น ICD และเป็น CY Yard คือเป็นศูนย์เปลี่ยนถ่ายพาหนะขนส่งจากไทยไปจีนและจากจีนมาไทย โดยเป็นการผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมแบบ Co-Production และเขตอุตสาหกรรมชายแดน จำเป็นจะต้องมีสถานที่รองรับสินค้าประเภทตู้คอนเทนเนอร์และสินค้าประเภท Bulk Cargoes มีการจัดพื้นที่เขตปลอดภาษี (Free Zone) รองรับการขนส่งสินค้าผ่านแดนที่เป็น Transshipment ซึ่งในส่วนนี้จะเกี่ยวข้องกับ Hard Ware และ Infrastructure โดยกรมขนส่งทางบกน่าจะเข้ามาเป็นเจ้าภาพบริหารจัดการ โดยอาจใช้ต้นแบบ ICD ลาดกระบัง อย่างไรก็ดี การวางยุทธศาสตร์ศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ ในฐานะเป็นเส้นทางขนส่งและกระจายสินค้าของภูมิภาค จะต้องกำหนดแผนงานด้านการตลาดร่วมกับแผนงานด้านโลจิสติกส์และการบูรณาการ โครงสร้างพื้นที่คมนาคมขนส่งทุกโหมด เพื่อให้เกิดการ Shift Mode ทั้งที่มีอยู่แล้วและโครงการในอนาคต โดยการเชื่อมโยงท่าเรือแหลมฉบังและสนามบินสุวรรณภูมิ รวมทั้งระบบการขนส่งทางราง เพื่อให้สามารถต่อยอดเชื่อมโยงกับสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 4 ซึ่งจะสร้างเสร็จในปี 2554 ทั้งนี้ จะต้องนำเส้นทาง East-West Economic Corridor ทั้งด้านอำเภอแม่สอด จังหวัดตากและสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 2 ที่จังหวัดมุกดาหาร เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาด โดยให้เชื่อมโยงกับแผนย่อยดังนี้

1)   New Trade Lane เส้นทางการกระจายสินค้าส่งออกของไทยไปสู่ตลาดจีน ประเด็นสำคัญคือ สินค้าของไทยรายการใดบ้าง ซึ่งมีศักยภาพในด้านต้นทุนและรูปแบบในการเข้าสู่ตลาดจีน

2)   Area Base มีการศึกษาถึงกฎเกณฑ์และข้อจำกัดที่เป็นอุปสรรคของจุดหมายปลายทาง (Destination Focus) โดยศึกษาทั้งในระดับแขวงของ สปป. ลาว และในการเข้าถึงแต่ละมณฑลของประเทศจีน เพราะประเทศจีนมีพื้นที่กว้างขวางและประชาชนมีจำนวนมาก ทำให้มีความต้องการที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

3)   Commodities Base จะต้องมีการศึกษาถึงสินค้าทั้งด้านเกษตร , เกษตรแปรรูป และสินค้าอุตสาหกรรม ว่าประเภทใดมีศักยภาพที่จะเข้าไปแข่งขันในตลาดของประเทศจีน และสินค้าประเภทใดที่ไทยอาจสูญเสียตลาด ทั้งในประเทศและชายแดน ซึ่งประเด็นนี้จะทำเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุกและเชิงรับ และควรมีการจัดทำวิจัยเชิงลึก ออกมาเผยแพร่ให้ผู้ประกอบการของไทยได้ทราบ

4)   Distribution Model ต้องมีการศึกษาแนววิธีในการกระจายสินค้าเข้าสู่ตลาดจีน ซึ่งไม่ใช่หมายถึง เพียงแต่การขนส่ง แต่หมายถึงระบบการจัดส่งและส่งมอบแบบ Door to Door ซึ่งประเทศจีนมีระบบศุลกากร และการคำนวณภาษี ซึ่งยังไม่เป็นสากล รวมทั้ง ยังมีระบบ NTB ทั้งที่เป็นรูปแบบและไม่เป็นรูปแบบ ซึ่งการเข้าถึงตลาดจีนเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

ความสำเร็จของศูนย์กระจายสินค้าเชียงของ จะต้องเชื่อมโยงให้เกิดเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมชายแดน รวมทั้ง เขตปลอดภาษีและคนงานต่างด้าว (นอกโควต้า) ให้สามารถเคลื่อนย้ายเข้ามาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมชายแดนแบบเช้าไป-เย็นกลับ โดยประเด็นของการใช้แรงงานต่างด้าวอย่างเสรี ภายใต้ข้อจำกัดของระเบียบด้านความมั่นคง จะเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้มีการเคลื่อนย้ายอุตสาหกรรมเข้ามาในบริเวณอำเภอเชียงของ เนื่องจากยังมีอุตสาหกรรมที่ต้องใช้แรงงานเข้มข้น ซึ่งยังไม่พร้อมจะไปลงทุนเต็มรูปแบบในประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะเป็นการใช้ศักยภาพเช่นด้านแรงงาน โดยนำวัตถุดิบไปประกอบ บรรจุ เช่น สิ่งทอ เพื่อผลิตเป็น Semi-Finished Goods แล้วนำกลับมาในประเทศไทย เพื่อมาผลิตในขั้นสุดท้าย


ไฟล์ประกอบ : 001-2009.pdf
อ่าน : 4230 ครั้ง
วันที่ : 13/01/2009

Contact : V-SERVE GROUP 709/54-55 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง  กทม. 10250 โทรศัพท์. 0 2332 3940-9 โทรสาร. 0 2332 0754
E-mail: tanit@v-servegroup.com