โดย ดร.ธนิต โสรัตน์
รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย
วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559
หากถามว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเมื่อใด คงต้องไปส่องกล้องดูเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในแถบเอเชียแปซิฟิก ซึ่งพบว่ามีแนวโน้มจะทรุดตัวมากกว่าที่คาด ทำไมจึงต้องให้ความสำคัญเพราะไทยส่งออกไปประเทศแถบนี้เกินกว่าครึ่ง ต่อให้ ดร.สมคิดฯ เป็นเทวดาก็ใช่จะแก้ปัญหาได้ง่ายๆ เพราะปัญหาอยู่ที่ลูกค้าไม่มีสตางค์มาซื้อสินค้า
อย่างที่กล่าวข้างต้นประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกเป็นลูกค้าสำคัญของการส่งออกไทย เฉพาะประเทศจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ใต้หวัน รวมกันมีสัดส่วนส่งออกสูงถึง 30% มากกว่าส่งออกไทยไปสหรัฐและยุโรปรวมกันเสียอีก สำหรับอาเซียนไทยส่งออกคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงหนึ่งในสี่ของการส่งออกทั้งหมด ดังนั้นการฟื้นตัวของการส่งออกซึ่งติดลบต่อเนื่องกันมา 3 ปี ณ เวลานี้จึงต้องโฟกัสไปดูเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศในแถบเอเชียเป็นสำคัญ
อย่างไรก็ดีสัญญาณทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกดูไม่ค่อยสดใส เริ่มจากพี่ใหญ่อย่างประเทศจีนซึ่งก่อนนี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นหัวจักรดึงเศรษฐกิจโลกและจะดันตัวเองให้เป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก อันที่จริงเศรษฐกิจของจีนออกอาการมาปีสองปีแล้วแต่ยังทำหน้าใสเพราะกลัวเสียเรตติ้ง ซึ่งจีนและฮ่องกงเป็นประเทศเดียวกัน เป็นคู่ค้าส่งออกรายใหญ่สูงของไทยด้วยสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 16.6 การส่งออกของจีนที่ผ่านมาถึงขั้นชะลอตัว ตลาดหุ้นดิ่งเหวต้องลดค่าเงินหยวนไปหลายรอบ คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจอาจโตได้ 6.3%ต่ำสุดในรอบหลายปี กล่าวว่าจีนกำลังเข้าสู่ยุด ?New Low? คือตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจตกต่ำทำลายสถิติของตัวเอง
สำหรับญี่ปุ่นเศรษฐกิจทรงๆทรุดๆ ป่วยเรื้อรังมานาน ปีนี้คาดว่าจะโตได้อย่างเก่ง 1.0% ดีกว่าปีที่แล้ว รัฐบาลอัดฉีดเงินเพื่อซื้อคืนพันธบัตรมากกว่า 23.3 ล้านล้านบาท เดือนมกราคมที่ผ่านมาประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายถึงขั้นติดลบเพื่อดันเศรษฐกิจและเพิ่มการใช้จ่ายในประเทศ ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร เดือนมกราคมส่งออกติดลบ 18.5% เป็นกว่าติดลบต่อเนื่องมา 13 เดือน ขนาดบริษัทใหญ่ๆอย่างฮุนไดออกมาประกาศนโยบายลดการใช้จ่าย
กลับมาที่อาเซียนประเทศที่เป็นหัวจักรเศรษฐกิจล้วนชะลอตัว เริ่มจากประเทศสิงคโปร์ซึ่งเคยฟู่ฟ่าเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เดือนที่ผ่านมาส่งออกไม่รวมน้ำมันติดลบสูงถึง -7.2% รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่เพื่อช่วยเอสเอ็มอี นอกจากนี้เศรษฐกิจของประเทศมาเลเซียซึ่งต้องพึ่งพิงการส่งออกน้ำมัน เศรษฐกิจปีนี้อาจขยายตัวได้ต่ำสุดในรอบหลายปี ส่งผลให้เงิน ริงกิตอ่อนค่าไปถึง 20% การบริโภคลดลงและหนี้ครัวเรือนสูงสุดในอาเซียน
ทั้งนี้การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยคงไม่ได้ทำได้ง่ายๆ เพราะต้องพึ่งพาการส่งออกไปประเทศเอเชียมากกว่าครึ่ง การนั่งเทียนถึงตัวเลขที่สวยๆโดยไม่ดูสภาพแวดล้อมทำให้การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด อีกทั้งปัญหาในประเทศทั้งภัยแล้ง ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แถมยังมีเรื่องร่างรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับ เป็นปัญหาถาโถมสู่รัฐบาล ฟังแค่นี้ก็เหนื่อยแทนแล้ว...แต่อย่าเครียดไปเที่ยวขว้างปาชาวบ้านเขานะครับ (สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์ www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat)
*****************************
|
||||
|
||||
เศรษฐกิจเอเชียทรุด...มากกว่าที่คาด Shareเศรษฐกิจเอเชียทรุด...มากกว่าที่คาด โดย ดร.ธนิต โสรัตน์ รองประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2559 หากถามว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวเมื่อใด คงต้องไปส่องกล้องดูเศรษฐกิจของประเทศต่างๆในแถบเอเชียแปซิฟิก ซึ่งพบว่ามีแนวโน้มจะทรุดตัวมากกว่าที่คาด ทำไมจึงต้องให้ความสำคัญเพราะไทยส่งออกไปประเทศแถบนี้เกินกว่าครึ่ง ต่อให้ ดร.สมคิดฯ เป็นเทวดาก็ใช่จะแก้ปัญหาได้ง่ายๆ เพราะปัญหาอยู่ที่ลูกค้าไม่มีสตางค์มาซื้อสินค้า อย่างที่กล่าวข้างต้นประเทศแถบเอเชียแปซิฟิกเป็นลูกค้าสำคัญของการส่งออกไทย เฉพาะประเทศจีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ใต้หวัน รวมกันมีสัดส่วนส่งออกสูงถึง 30% มากกว่าส่งออกไทยไปสหรัฐและยุโรปรวมกันเสียอีก สำหรับอาเซียนไทยส่งออกคิดเป็นสัดส่วนสูงถึงหนึ่งในสี่ของการส่งออกทั้งหมด ดังนั้นการฟื้นตัวของการส่งออกซึ่งติดลบต่อเนื่องกันมา 3 ปี ณ เวลานี้จึงต้องโฟกัสไปดูเศรษฐกิจและกำลังซื้อของประเทศในแถบเอเชียเป็นสำคัญ อย่างไรก็ดีสัญญาณทางเศรษฐกิจของประเทศในแถบเอเชียแปซิฟิกดูไม่ค่อยสดใส เริ่มจากพี่ใหญ่อย่างประเทศจีนซึ่งก่อนนี้ถูกคาดหวังว่าจะเป็นหัวจักรดึงเศรษฐกิจโลกและจะดันตัวเองให้เป็นผู้นำเศรษฐกิจโลก อันที่จริงเศรษฐกิจของจีนออกอาการมาปีสองปีแล้วแต่ยังทำหน้าใสเพราะกลัวเสียเรตติ้ง ซึ่งจีนและฮ่องกงเป็นประเทศเดียวกัน เป็นคู่ค้าส่งออกรายใหญ่สูงของไทยด้วยสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 16.6 การส่งออกของจีนที่ผ่านมาถึงขั้นชะลอตัว ตลาดหุ้นดิ่งเหวต้องลดค่าเงินหยวนไปหลายรอบ คาดว่าปีนี้เศรษฐกิจอาจโตได้ 6.3%ต่ำสุดในรอบหลายปี กล่าวว่าจีนกำลังเข้าสู่ยุด ?New Low? คือตัวเลขชี้วัดเศรษฐกิจตกต่ำทำลายสถิติของตัวเอง สำหรับญี่ปุ่นเศรษฐกิจทรงๆทรุดๆ ป่วยเรื้อรังมานาน ปีนี้คาดว่าจะโตได้อย่างเก่ง 1.0% ดีกว่าปีที่แล้ว รัฐบาลอัดฉีดเงินเพื่อซื้อคืนพันธบัตรมากกว่า 23.3 ล้านล้านบาท เดือนมกราคมที่ผ่านมาประกาศลดดอกเบี้ยนโยบายถึงขั้นติดลบเพื่อดันเศรษฐกิจและเพิ่มการใช้จ่ายในประเทศ ขณะที่ประเทศเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าใคร เดือนมกราคมส่งออกติดลบ 18.5% เป็นกว่าติดลบต่อเนื่องมา 13 เดือน ขนาดบริษัทใหญ่ๆอย่างฮุนไดออกมาประกาศนโยบายลดการใช้จ่าย กลับมาที่อาเซียนประเทศที่เป็นหัวจักรเศรษฐกิจล้วนชะลอตัว เริ่มจากประเทศสิงคโปร์ซึ่งเคยฟู่ฟ่าเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เดือนที่ผ่านมาส่งออกไม่รวมน้ำมันติดลบสูงถึง -7.2% รัฐบาลเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจล็อตใหญ่เพื่อช่วยเอสเอ็มอี นอกจากนี้เศรษฐกิจของประเทศมาเลเซียซึ่งต้องพึ่งพิงการส่งออกน้ำมัน เศรษฐกิจปีนี้อาจขยายตัวได้ต่ำสุดในรอบหลายปี ส่งผลให้เงิน ริงกิตอ่อนค่าไปถึง 20% การบริโภคลดลงและหนี้ครัวเรือนสูงสุดในอาเซียน ทั้งนี้การฟื้นตัวเศรษฐกิจไทยคงไม่ได้ทำได้ง่ายๆ เพราะต้องพึ่งพาการส่งออกไปประเทศเอเชียมากกว่าครึ่ง การนั่งเทียนถึงตัวเลขที่สวยๆโดยไม่ดูสภาพแวดล้อมทำให้การแก้ปัญหาไม่ตรงจุด อีกทั้งปัญหาในประเทศทั้งภัยแล้ง ปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ แถมยังมีเรื่องร่างรัฐธรรมนูญจะรับหรือไม่รับ เป็นปัญหาถาโถมสู่รัฐบาล ฟังแค่นี้ก็เหนื่อยแทนแล้ว...แต่อย่าเครียดไปเที่ยวขว้างปาชาวบ้านเขานะครับ (สนใจรายละเอียดเพิ่มเติมดูได้ทางเว็บไซต์ www.tanitsorat.com หรือ www.facebook.com/tanit.sorat) ***************************** ไฟล์ประกอบ : เศรษฐกิจเอเชียทรุด...มากกว่าที่คาด.doc อ่าน : 1496 ครั้ง วันที่ : 09/02/2016 |
||||
|