เอกชนหนุนทหารเซ็ทซีโร่ฟื้นฟู ปท. อยากได้ รบ. เหมือน อานันท์ ปันยารชุน Share


           ภายหลังคณะรักษาความสงบเรียบร้อย(คสช.)นำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบกได้ประกาศยึดอำนาจปกครองประเทศตั้งแต่วันที่22 พ.ค.เป็นต้นไปท่าทีจากภาคเอกชนต่างเห็นด้วย นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่าต้องรอความชัดเจนมาตรการต่างๆของ คสช.ว่ามีเนื้อหาอย่างไร ขณะนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือคณะรัฐบาลชุดใหม่ที่จะแต่งตั้งขึ้น ควรมีระยะเวลาทำงานไม่เกิน6เดือนและกำหนดให้ชัดเจนเลยว่า จะมีการเลือกตั้งให้ชัดเจน และให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาคอร์รัปชั่นต้นเหตุที่ทำให้เกิดปัญหา ทำให้มีการเบิกจ่ายงบประมาณของรัฐบาลล่าช้าอย่างมาก

            “ในวิกฤติย่อมมีโอกาสที่ดีเสมอ อย่างเหตุการณ์ครั้งนี้ ก็เหมือนเซ็ท 0เลยเริ่มต้นใหม่ ล้างใหม่ทั้งหมด อยากให้ตั้งคณะทำงาน หรือรัฐบาลที่เข้ามาทำงานจริงๆเหมือนสมัยนายอานันท์ ปันยารชุน เป็นนายกรัฐมนตรีแต่ควรอยู่แค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น แล้วให้กำหนดวันเลือกตั้งใหม่ชัดเจน ให้ต่างชาติเข้าใจได้”นายสุพันธุ์ กล่าว

            นายธนิต โสรัตน์ ประธาน บริษัท V-SERVE GROUP จำกัดและอดีตรองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)กล่าวว่าอยากให้สถานการณ์จบลงโดยเร็ว หุ้นไม่ตก ความเชื่อมั่นเอกชนไม่ติดลบ เงินบาทไม่แข็งแค่มากแสดงว่าเงินไม่ไหลออก และอยากให้ คสช.เร่งยุติความขัดแย้ง ให้มีรัฐบาลใหม่ เข้ามาบริหารประเทศ ภายในเดือนพ.ค.นี้อยากให้ คสช.เร่งดำเนินการใน 2 เรื่องหลัก คือ 1.การจัดตั้งรัฐบาลชั่วคราวเข้ามาบริหารประเทศ และ2.การจัดเลือกตั้ง โดยกำหนดวันที่ชัดเจน เพื่อให้ต่างชาติทราบ และไม่ใช่ช่องว่างดังกล่าวเข้ามาแทรกแซง อาทิ การแบนสินค้าส่งออกของไทยที่ส่งไปขายต่างประเทศ

            นายนพพร เทพสิทธา ประธานสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สทร.)กล่าวว่าเข้าใจว่าการทำรัฐประหารในครั้งนี้เป็นความจำเป็นของทหาร เพราะได้พยายามให้ทุกฝ่ายพูดคุยเพื่อหาทางออกของประเทศแล้วแต่ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ จึงเหลือทางออกเดียวคือการทำรัฐประหาร เพื่อให้ประเทศชาติได้กลับมาเริ่มต้นเดินหน้าต่อไปได้ ส่วนผลกระทบต่อการส่งออกนั้น ขึ้นอยู่กับว่าจะสามารถตั้งรัฐบาลใหม่ที่มีอำนาจเต็มได้เร็วหรือไม่ ถ้าตั้งรัฐบาลได้เร็วและเร่งออกไปชี้แจงกับต่างชาติ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจและประเทศคู่ค้าต่างๆก็จะช่วยบรรเทาผลกระทบให้น้อยลงได้

            “การรัฐประหารอาจทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงักไปช่วงหนึ่งแล้วก็จะกลับมาเป็นปกติหลังการเลือกตั้งซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้จะต้องเลือกให้ความสำคัญในเรื่องความมั่นคงของประเทศก่อนสิ่งอื่นเพราะถ้าปล่อยให้เกิดสูญญากาศทางการเมืองยาวนาน ไม่สามารถตั้งรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มได้และทุกฝ่ายยังไม่ยอมปรองดองยุติความรุนแรงก็จะส่งผลเสียต่อประเทศชาติในระยะยาวมากกว่า ยังคงมองในแง่ดีว่าหลังเหตุการณ์ครั้งนี้แล้วจะเกิดความสงบมีรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มสามารถเจรจาขยายการค้ากับต่างประเทศและเดินหน้านโยบายเศรษฐกิจได้ ก็จะทำให้ประเทศชาติกลับมาเติบโตดีขึ้นกว่าเดิมได้”นายนพพร กล่าว

            นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่าได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ 64 แห่งทั่วโลก รีบไปชี้แจงและทำความเข้าใจกับคู่ค้าในประเทศ ที่ตนเองประจำอยู่อย่างเร่งด่วนถึงกรณีที่ คสช.ได้ประกาศควบคุมอำนาจการปกครองประเทศ ไม่มีผลกระทบต่อภาคการค้า โดยไทยยังสามารถผลิตและส่งออกสินค้าได้ตามปกติ ขอให้ลูกค้ามั่นใจและทำการค้ากับไทยต่อไปขอให้ทำอย่างเร่งด่วนเพราะเกรงว่าจะเป็นปัญหาบานปลาย ถ้าลูกค้าเกิดไม่มั่นใจและไม่ค้าขายกับไทยจะส่งผลกระทบต่อเนื่องถึงเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังอยู่ในภาวะชะลอตัวอยู่ในขณะนี้ พร้อมสั่งการให้กรมการค้าภายในจัดส่งเจ้าหน้าที่ออกไปตรวจสอบภาวะราคาสินค้าเกรงมีพ่อค้าแม่ค้าบางรายฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้บริโภคได้



อ่าน : 1472 ครั้ง
วันที่ : 23/05/2014

Contact : V-SERVE GROUP 709/54-55 ถ.สุขุมวิท 77 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง  กทม. 10250 โทรศัพท์. 0 2332 3940-9 โทรสาร. 0 2332 0754
E-mail: tanit@v-servegroup.com